การใช้เลเซอร์ยิงลงไปที่บริเวณเซลล์รากขน เพื่อทำให้ขนฝ่อและหลุดออกไป ส่วนที่ทำหน้าที่ผลิตขนก็จะถูกทำลายลงไปด้วย ส่งผลให้ขนเกิดขึ้นใหม่ได้ช้าลง มีขนาดเล็กและสีอ่อนลง หากได้รับการเลเซอร์ซ้ำ ๆ เส้นขนก็จะหมดไปอย่างถาวร แขนเราก็จะเนียนนุ่มน่าสัมผัส
สามารถกำจัดขนได้สะดวก รวดเร็ว สบายผิว
อ่านเพิ่มเติม: เลเซอร์ขนกี่ครั้งเห็นผล
การกำจัดขนนั้นทำได้หลายวิธีด้วยกันทั้งการถอน โกน แว๊กซ์ การใช้ครีมกำจัดขน และการทำเลเซอร์ ซึ่งการทำเลเซอร์นั้นก็เป็นวิธีที่ได้รับความนิยมมากในปัจจุบัน สามารถกำจัดขนได้อย่างถาวร เพราะจะช่วยกำจัดขนไปจนถึงรากขน ทำให้ได้ผลลัพธ์ในการกำจัดขนที่ดีและยังช่วยลดการเกิดตุ่มหนังไก่ เกิดขนคุดต่างๆ ได้
เลเซอร์หนวด กำจัดหนวดเครา แก้ปัญหาขนขึ้นเป็นตอ ลดความแข็งของเส้นขน ช่วยให้ผิวเรียบเนียน ลดปัญหาสิว
ปัจจุบันมีเลเซอร์กำจัดขน หลายประเภทที่ถูกใช้กันอย่างแพร่หลายในคลินิกเสริมความงาม โดยเครื่องเลเซอร์ แต่ละประเภทมีคุณสมบัติและเหมาะสมกับประเภทของผิวหรือสีขนที่ต่างกัน ดังนี้
Q&A เกี่ยวกับ เลเซอร์ขน ตอบทุกคำถามที่คุณอยากรู้
ผู้ที่ต้องการให้ผิวดูขาวเรียบเนียนน่าสัมผัส ดูสะอาดเกลี้ยงเกลา
ก่อนการมาทำเลเซอร์กำจัดขน ไม่ควรถอนขนหรือแว็กซ์ขนมาก่อน เพราะเป็นการทำลายรากขนที่เราต้องการทำลายด้วยการยิงเลเซอร์ โดยจะแนะนำเป็นการโกนขนเท่านั้น เพราะจะยังเหลือรากขน และจะช่วยให้แสงเลเซอร์ที่ยิงเข้าไปจับกับรากขนได้ แล้วเกิดการทำลายรากขนได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ไม่ควรออกกำลังกายหนักที่ให้เหงื่อมากหลังการเลเซอร์เพราะอาจจะทำให้เกิดการระคายเคืองได้
เครื่องเลเซอร์ขน มีกี่แบบ แตกต่างกันอย่างไร?
คุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เลเซอร์กำจัดขน เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้ คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์
สำหรับผู้ที่สนใจอยากกำจัดขนในตำแหน่งที่ไม่พึงประสงค์ ทำเลเซอร์ขนครั้งแรก แต่ไม่รู้ว่าจะทำแบบไหน เลเซอร์ขนมีกี่แบบ ?
การเลเซอร์ หนึ่งในวิธีที่การกำจัดขนได้อย่างถาวร เป็นวิธีที่สะดวก ปลอดภัย ให้ผลลัพธ์ดีที่สุด หลังจากการจำกัดขนด้วยการเลเซอร์แล้ว วงจรการเกิดขนใหม่นั้นก็จะเกิดขึ้นช้าออกไปเรื่อยๆ ขนที่เกิดใหม่จะมีขนาดที่เล็กลง สีอ่อนลง และจะค่อยๆ ขึ้นน้อยลง สามารถทำได้ทุกส่วนของผิวหนัง ไม่ว่าจะเป็น แขน ขา รักแร้ ใบหน้า หนวด เครา หรือ บีกินี่
Comments on “เลเซอร์กำจัดขน No Further a Mystery”